สูททรงเบสิค กับ ทรงเข้ารูปแตกต่างกันอย่างไร? – DGRIE
.
วันนี้ดีกรีสูท จะพามาเจาะสไตล์ ความต่างระหว่างสูท ทั้ง 2 ทรง ยอดนิยม หากคุณคือคนที่ต้องใส่สูทเป็นประจำ แน่นอนว่าต้องเคยใส่สูททั้งสองทรงนี้มาบ้างแล้ว แต่หากคุณยังเลือกใส่สูทไม่ถูก ไม่แน่ใจว่าทรงไหนที่เหมาะสำหรับคุณมากกว่า เราพามาอัพเดตกับแบบจุดต่อจุด ถึงดีเทลความต่างใหญ่ๆ ที่เช็คเองได้ ไม่ต้องเป็นมืออาชีพในการใส่สูท ก็สามารถเช็คได้ไม่ยาก อัพเดตพร้อมกันในวันนี้ที่ดีกรีครับ
.
รู้หรือไม่ >> สูททรงเบสิค คือรูปแบบสูทในสไตล์อเมริกัน และสูททรงเข้ารูป ก็คือแฟชั่นสูทในสไตล์อิตาลี นั่นเอง
.
1.สูททรงเบสิค (Regular Fit)
สูททรงคลาสสิคที่คุ้นตา ดีไซน์เบสิคเริ่มต้น สำหรับการเลือกสูททรงสวย ต้องยกให้สูททรงเบสิค เพราะเป็นทรงเริ่มต้น ที่ใส่ง่าย ใส่สบาย สามารถใส่ได้ไม่ว่าคุณจะมีรูปร่างแบบใดก็ตามแต่ จึงนิยมสวมใส่เพื่อเสริมภาพลักษณ์การใส่สูท ให้ดูมีความน่าเชื่อถือ มีสไตล์ที่ดูภูมิฐาน ถือเป็นทรงสูทที่ให้ความสุภาพสูงสุด เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหา สูททรงเบสิค ที่ไม่เน้นความแฟชั่นมากนัก ที่หยิบใส่เมื่อไหร่ ก็ดูแพงดูมีคลาส ได้ในทันที สง่างามแบบออริจินัลต้องสูททรงเบสิคครับ
.
1.1 ต่างที่ช่วงตัว – ช่วงลำตัวจะมีการตัดเย็บ ไม่ถึงกับหลวมโคล่งหรือโอเวอร์ไซส์จนเกินไป เน้นทรงเอวที่ดูตรงไม่โค้งเว้า จะดีไซน์ให้มีความหลวมเล็กน้อย เพื่อการเคลื่อนไหวที่คล่องตัว สวมใส่สบายรีแลกซ์ตลอดวัน
1.2 ต่างที่ช่วงแขน – การออกแบบช่วงแขน จะมีขนาดใหญ่ เคลื่อนไหวและสวมใส่สบาย และมีความยาวแขนที่ยาวคลุมนิ้วหัวแม่มือ
1.3 ต่างที่ความยาว – สูททรงเบสิคนั้น จะนิยมเผื่อระดับความยาวชายเสื้อ ยาวคลุมสะโพกและช่วงก้น
– โอกาสไหน ควรเลือกใส่สูท ทรงเบสิค : ใส่สูทเพื่อทำงาน ประชุมงาน สูทผู้บริหาร สูทออกงานสังคมแบบมีพิธีการสูง ที่เน้นความน่าเชื่อถือ เป็นพิเศษ
.
2.สูททรงเข้ารูป (Slim Fit)
สูททรงเข้ารูปหรือทรงสลิมฟิตนั้น รูปแบบสูททรงยอดฮิตในปัจจุบัน แต่จะให้ลุคที่ดูกึ่งทางการและแฟชั่นกว่าเล็กน้อย หากเทียบกับทรงเบสิค เพราะถูกออกแบบด้วยรูปทรงที่พอดีรูปร่างโดยเฉพาะ เน้นดีไซน์สูทด้วยโทนสีและลวดลายที่โดดเด่นกว่า จึงเป็นทรงสูทที่เหมาะสำหรับการเลือกใส่ ในวันสบายๆ ที่ไม่เน้นความทางการมากจนเกินไป แต่โดยรวมก็ยังให้ลุคที่ดูสง่างาม และดูสุภาพในเวลาเดียวกัน
.
2.1 ต่างที่ช่วงตัว – สูททรงเข้ารูปนั้น จะมีรูปทรง ที่เข้ารูปเข้าทรงกว่า ไม่เล็กฟิตแน่นจนเกินไป ใส่แล้วจะช่วยเสริมรูปร่างให้ดูสมส่วน และดูผอมเพรียวมากยิ่งขึ้น เน้นทรงเข้ารูปแต่ใส่แล้วไม่รู้สึดอึดอัด คือความโดดเด่นของสูททรงนี้
2.2 ต่างที่ช่วงแขน – ช่วงแขนจะมีการออกแบบที่กระชับ พอดีสัดส่วน
2.3 ต่างที่ความยาว – ชายเสื้อสูทจะมีความยาว เหนือสะโพกเล็กน้อย เพื่อเน้นความแฟชั่น ใส่แล้วจะโชว์สัดส่วนช่วงความโค้งเว้าได้เป็นอย่างดี
– โอกาสไหน ควรเลือกใส่สูททรงเข้ารูป : สูทแฟชั่นใส่ออกงาน สูทใส่ทำงาน สูทสำหรับนักศึกษา ใส่ไปเรียน แนะนำทรงนี้ครับ เน้นความสุภาพแต่ลดระดับความทางการลงมา ทรงสูทยอดนิยมสำหรับเทรนด์แฟชั่นช่วงนี้ ที่ไม่ควรพลาดที่จะลองใส่กันดู รับรองและการันตีความดูดีได้ในทุกลุคครับ
.
เสนอไอเดียคอนเทนต์ การแต่งกาย ได้ที่ :
https://forms.gle/BqPSKUfHMv8FxpN38
.
นี่คือ ความต่างที่ชัดเจน หวังว่าข้อมูลเบื้องต้นเหล่านี้ จะช่วยให้คุณเองได้รู้จัก กับความต่างของสูททั้ง 2 ทรงนี้ได้มาก เชฟและแชร์ไว้เป็นตัวเลือก สำหรับการชื้อสูท ครั้งต่อไป หากใครที่ยังไม่มีไอเดีย ว่าคุณเองเหมาะกับสูททรงไหนมากกว่ากัน สามารถเข้ามาสอบถามเพื่อรับคำแนะนำโดยตรงจากผู้เชี่ยวชาญ จากแบรนด์สูทดีกรีได้ เรายังมีสินค้าชุดสูทอีกหลากหลายรูปแบบ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ร้านสูทดีกรี ได้ที่ลิงค์นี้ >> https://lin.ee/n1ieBic >> DGRIE | Official: @Dgrie / https://www.dgrie.com/blog