กาลเวลาของแฟชั่นหลังสูท The time of fashion behind the suit
มาสแกนดูหลังชุดสูทกัน สองสไตล์ที่เห็นอยู่นี้ จะมีความต่างกันอย่างไร ลองจับผิดกันดูครับ แน่นอนว่าทุกดีเทลนั้นมีที่มาที่ไป และสำหรับข้อมูลน่าสนใจในวันนี้ เราจะพามาสแกน เปรียบเทียบแฟชั่นสูท ทั้งสองยุคนี้ จะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง สไตล์ที่คุณใส่อยู่นั้น มีดีเทลตามนี้แล้วหรือไม่ ไปเช็คความพิเศษพร้อมกันที่ดีกรีสูทในวันนี้ครับ
.
รู้หรือไม่ >> Walking sticks (ว๊อล์คคิง สทิ๊ค) หรือไม้เท้า มักถูกใช้เป็นเครื่องประดับแฟชั่น ในช่วงทศวรรษปี ค.ศ. 1920 เป็นต้นมา พกพาเพื่อเสริมความสง่างาม เมื่อใส่สูท โดยทั่วไปจะทำจากไม้หรือโลหะ ส่วนใหญ่จะเลือกถือโทนสี ที่มีความใกล้เคียงกับเนคไทหรือ พ็อกเก็ต สแควร์ นั่นเอง
.
แฟชั่นยุค 1910’s- 20’s
โทนสีสูทยอดนิยม >> สีน้ำตาล
สไตล์หมวก >> หมวกฮอมเบิร์ก (Homburg hat) ผ้าสักหลาด ปลายหมวกม้วนขึ้น นิยมใช้ในปลายศตวรรษที่ 19
ไหล่สูท >> โครงสร้างไหล่ขนาดบาง โค้งเว้าตามรูปร่าง ทันสมัยและโฉบเฉี่ยว คล่องตัว สวมใส่สบาย
ความยาว >> แจ็คเก็ตสูท ยาวกว่า ยาวคลุมช่วงก้น
ผ่าหลัง >> ผ่าหลังสูทแบบเดี่ยว กึ่งกลาง เรียบง่ายที่สุด (Single Vent)
ทรงสูท >> ช่วงเอวแบบหลวม
ปลายขากางเกง >> ไม่เบิ้ลปลายขา (No Cuff)
ทรงกางเกง >> ทรงกระบอกเล็ก (Slim Straight) สอบเข้าช่วงปลายขา ใส่แล้วรู้สึกกระชับ ดูขาเรียวขึ้น
.
แฟชั่นยุค 1930’s- 40’s
โทนสีสูทยอดนิยม >> สีเทา
สไตล์หมวก >>หมวกปานามา (Panama Hat) ผ้ากำมะหยี่ โดดเด่นและหรูหรา สไตล์ดั้งเดิมช่วงปี 1930
ไหล่สูท >> โครงสร้างไหล่ขนาดหนา เสริมฟองน้ำเสริมบ่า ทรงสูทจะดูสวย สมาร์ททางการมากขึ้น
ความยาว >> แจ็คเก็ตสูท สั้นกว่า ยาวคลุมช่วงสะโพก
ผ่าหลัง >> ไม่เน้นการผ่าหลังสูท มักดีไซน์ในสูททรงเข้ารูป (No Vent)
ทรงสูท >> ช่วงเอวเข้ารูป
ปลายขากางเกง >> กางเกงปลายขาเบิ้ล (Single Cuff)
ทรงกางเกง >> ทรงขากระบอก (Regular Straight) มีช่วงต้นขากว้างกว่าทรง คล่องตัวเมื่อสวมใส่
.
สนใจช้อปสินค้าแบรนด์ดีกรี สูทสไตล์วินเทจ เลือกช้อปเพิ่มเติมได้ที่ >> https://shopee.co.th/dgrie, สอบถาม/สั่งตัดสูท https://lin.ee/n1ieBic >> DGRIE | Official: @Dgrie // คอนเทนต์อื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ https://www.dgrie.com/blog/